ช่วงเย็นวานนี้ (31 ม.ค. 65) ได้มีบรรดาคนไทยเชื้อสายจีน ในจังหวัดบุรีรัมย์ ออกมาไหว้เจ้าที่ศาลหลักเมืองเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นบุคคลธรรมดา หรือจะเป็นนักธุรกิจระดับเจ้าสัวประจำจังหวัด ต่างก็นำเครื่องเซ่นไหว้มาไหว้กันถ้วนหน้า

นายนนทชา อยู่ประพัต อายุ 42 ปี คนไทยเชื้อสายจีนในบุรีรัมย์ บอกว่า การไหว้เจ้าปีนี้ ก็เหมือนกับทุกปีที่ผ่านมา คือจะไหว้ในช่วงเย็นของวันจ่าย เนื่องจากมีชาวจีนกลุ่มหนึ่ง ส่วนใหญ่เป็นผู้ประสบความสำเร็จในด้านการค้า มักจะมาไหว้ก่อนวันไหว้จริงหลังเที่ยงคืน เท่าที่ทราบ ลือกันว่า 'ไหว้ก่อนรวยก่อน' โดยต่อมา ในช่วงเย็นของวันจ่าย จะมีคนมาไหว้ทำตามกัน เหมือนกับเป็นการสืบทอด หลังจากนั้น ก็กลายเป็นประเพณีการไหว้มาจนถึงตอนนี้

วันจ่ายเทศกาลตรุษจีนปีนี้ ชาวจังหวัดตาก พากันจ่ายตลาดซื้อสิ่งของเตรียมไหว้ ในวันไหว้เทศกาลตรุษจีน ทำให้พ่อค้าแม่ค้าต่างพากัน เตรียมสินค้าเทศกลตรุษจีนไว้รองรับลูกค้า

ตามปกติการไหว้บรรพบุรุษ ไหว้เจ้าในเทศกาลตรุษจีน ชาวบ้านส่วนใหญ่จะนิมยมซื้อหัวหมู ไปใช้ไหว้ในวันไหว้กันทุกปี แต่จากสถานการณ์ราคาหมูขยับสูงขึ้น ทำให้ชาวบ้านจำนวนมาก งดซื้อหัวหมูไปไหว้ในวันไหว้ แต่กลับไปซื้อไก่ต้มน้ำปลาไปไหว้แทนหัวหมู เพราะไก่ถึงจะราคาสูงขึ้น แต่ก็ยังถูกกว่าหัวหมูที่ราคาขยับสูงขึ้น ตั้งแต่หัวละ 500-700 บาท

พ่อค้าไก่ต้มน้ำปลารายหนึ่ง ที่ตำบลหนองเสม็ด อ.เมืองจ.ตราด เปิดเผยว่า ตนเองยังคงขายไก่ราคาเดิม คือตัวละ 170-190 บาท ไม่ขึ้นราคาแต่อย่างไร เพราเห็นใจ และเข้าใจลูกค้า ที่ต้องแบกรับภาระกับราคาสินค้า ที่ขึ้นแทบจะทุกรายการ ตั้งแต่น้ำมันไปจนถึงสินค้าในครัวเรือน ก็ขายแบบคนขายอยู่ได้ ลูกค้าอยู่ได้ ช่วยๆ กันไป

ขณะแม่ค้าไก่ต้มน้ำปลาอีกราย บอกว่า ตนขายไก่ต้มน้ำปลาตัวละ 200 บาท แถมเครื่องใน 1 ชุด ๆ ละ 20 บาท ทุกๆ ปีในช่วงวันตรุษจีน จะขายไก่ทั้งหมดประมาณ 700-800 ตัว แต่ปีนี้ ตนเองเตรียมไก่ไว้ทั้งหมด 1,500 ตัว ก็ยังไม่พอขาย เพราะยอดคนซื้อเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่าตัว

แม่ค้าไก่บอกว่า แม้ไก่สดจะขึ้นราคาตัวละ 15 บาท แต่ตนเองก็ยังขายราคาเดิม เพราะไม่อยากซ้ำเติมลูกค้า ในช่วงวิกฤตทั้งโควิด และสินค้าแพงหูฉี่แบบนี้ และยังบอกด้วยว่า หัวหมูแพง ชาวบ้านหันมาซื้อไก่ และหมูเหลียว (หมูเป็นชิ้น)ไปไหว้ในวันไหว้กันแทนหัวหมูแล้ว