กินเจปีนี้มีทางเลือกมากขึ้น เมื่อโลกได้รู้จักกับ ‘เนื้อไร้เนื้อ’ หรือเนื้อสัตว์ทดแทนที่เรียกอย่างเป็นทางการว่า ‘Plant-Based Meat’ ซึ่งช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ มีให้เลือกบนเช้ลฟ์หลากหลาย ตอบโจทย์เทรนด์ลดการบริโภคเนื้อสัตว์ ที่ทั้งดีต่อสุขภาพ และยังลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ให้โลกด้วย ชวนไปทำความรู้จักเนื้อที่ไม่ใช่เนื้อให้มากขึ้น พร้อมหยิบแบรนด์แพลนต์เบสด์ไทยๆ ลงจากเช้ลฟ์มาเปรียบเทียบกันดูสักหน่อย

อะไรคือ Plant-based Meat?

แพลนต์เบสด์ คือ การนำพืชมาแปรรูปให้ใกล้เคียงกับเนื้อสัตว์มากที่สุด โดยใช้วัตถุดิบจากพืชถึง 95% ส่วนอีก 5% เป็นเห็ด สาหร่าย และส่วนประกอบอื่น (ซึ่งต่างจากโปรตีนเกษตรที่ผลิตด้วยแป้งถั่วเหลือง 100% และยังไม่มีรสชาติหรือรสสัมผัสที่คล้ายเนื้อสัตว์แต่อย่างใด) ตัวการสำคัญอยู่ที่โมเลกุลโปรตีนที่เรียกว่า ฮีม (HEME) ซึ่งพบได้ในพืชและสัตว์ ทำให้เนื้อจากพืชนี้ให้รสชาติดีและให้ผิวสัมผัสนุ่มเด้งอร่อยฉ่ำคล้ายเนื้อจริง แพลนต์เบสด์จึงเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์การลดบริโภคเนื้อสัตว์ได้อย่างดี

มากกว่านั้น แพลนต์เบสด์ยังมีแนวคิดด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อมเป็นใจความสำคัญ เมื่ออุตสาหกรรมปศุสัตว์ส่งผลกระทบโดยตรงต่อสิ่งมีชีวิตอื่นและธรรมชาติ เช่น การเลี้ยงสัตว์เพื่อบริโภค การใช้พื้นที่จำนวนมหาศาลปลูกพืชเพื่อเป็นอาหารสัตว์ แพลนต์เบสด์จึงถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่อช่วยลดปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึันแล้วและกำลังจะเกิดขึ้นอีกในระยะยาว นิยามของแพลนต์เบสด์จึงไปได้กว้างและไกลกว่าโปรตีนเกษตรที่เคยคุ้น ดึงดูดผู้คนให้หันมาสนใจได้มากกว่า จนกลายเป็นเทรนด์เนื้อสัตว์ทดแทนที่แม้แต่ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดเองก็เริ่มมีผลิตภัณฑ์แพลนต์เบสด์เป็นทางเลือกให้กับลูกค้า

มาดูกันว่าแพลนต์เบสด์โลคอลของไทย มีแบรนด์ไหนน่าจับตา และต่างกันยังไงบ้างทั้งในแง่ส่วนผสม รสชาติ และสุขภาพ

Meat Avatar หมูสับจำแลง / หมูกรอบจำแลง

มาพร้อมสโลแกน “เพราะชีวิตมีทางเลือก...กินดี อยู่ดี ชีวิตดี” เอาใจผู้บริโภคด้วยโปรดักต์แบบได้ใจคนรักเท็กซ์เจอร์ไปเต็มๆ กับหมูสับและหมูกรอบจำแลงที่ทั้งหน้าตาและรสสัมผัสใกล้เคียงความเป็นจริงมากที่สุด เพราะใช้ soy texture และ soy protein เป็นตัวตั้งต้น ทำให้ได้ความกรอบนุ่ม มีไขมันแทรกแบบหมูกรอบแท้ๆ ส่วนหมูสับแพลนต์เบสด์ทำมาจากเห็ดหอมเนื้อเด้งและถั่วเหลืองเพื่อเพิ่มความหยุ่นยืดหนึบหนับ แพลนต์เบสด์จากแบรนด์นี้ใช้วัตถุดิบทุกอย่างที่หาได้ในประเทศเพื่อคงราคาที่จับต้องได้ และเป็นการสนับสนุนเกษตรกรไทยอีกด้วย

วัตถุดิบ ถั่วเหลือง เห็ดหอม ข้าวเจ้า ข้าวสาลี

เหมาะสำหรับ การปรุงทุกประเภท ผัด ทอด ย่าง นึ่ง ต้ม

ข้อมูลโภชนาการ Meat Avatar หมูสับจำแลง (ต่อครึ่งถุง 120 g)

พลังงาน 135 Kcal
โปรตีน 20 g
ไขมัน 2 g
ไฟเบอร์ 7 g
คอเลสเตอรอล 0 mg

More Meat เมื่อเห็ดแครงแปลงเป็นเนื้อสับ

จุดเด่นของ More Meat คือแพลนต์เบสด์ที่ให้ความชุ่มฉ่ำคล้ายเนื้อสัตว์จนส่งเสียง ซู่วว์ ซู่วว์ เมื่อถูกนาบบนกระทะ และเป็นเจ้าแรกในไทยที่ใช้เห็ดแครงเป็นส่วนประกอบ แบรนด์นี้เปิดส่วนประกอบให้ผู้บริโภครับรู้อย่างครบถ้วน ตั้งแต่ถั่วเหลืองจากแหล่งที่ได้รับมาตรฐานและไม่ตัดต่อพันธุกรรม (Non-GMO) และเห็ดแครงเพื่อเติมเต็มโภชนาการและผิวสัมผัส ไขมันจากน้ำมันมะพร้าวและน้ำมันคาโนล่า ซึ่งคือส่วนสำคัญที่ทำให้เนื้อฉ่ำ เมทิลเซลลูโลสหรือสารให้ความข้นเหนียวสกัดมาจากผนังเซลล์ในพืชทำหน้าที่ยึดจับวัตถุดิบเข้าด้วยกัน สีธรรมชาติจากบีทรูทไม่ใช่แค่เรื่องสีสันสดสวย แต่เพื่อความสะดวกในการประกอบอาหาร เพราะเมื่อถูกความร้อน สีของบีทรูทจะจางลงเป็นการให้สัญญาณว่าสุกพร้อมกิน

วัตถุดิบ ถั่วเหลือง เห็ดแครง ไม่ปรุงรสและไม่แต่งกลิ่น

เหมาะสำหรับ การปรุงทุกประเภท ผัด ทอด ย่าง นึ่ง ต้ม

ข้อมูลโภชนาการ More Meat เนื้อสับจากเห็ดแครง (ต่อครึ่งถุง 100 g)

· พลังงาน 130 Kcal

· โปรตีน 16 g

· ไขมัน 3.5 g

· ไฟเบอร์ 4 g

· คอเลสเตอรอล 0 mg

Let's Plant Meat เนื้อบด เบอร์เกอร์ คัตสึ

เน้นอร่อย รสชาติจัดจ้านแบบที่คนไทยน่าจะชอบ วัตถุดิบหลักจากถั่วเหลือง ข้าว และน้ำมันรำข้าว ปรุงรสด้วยน้ำตาลและเกลือ ใส่ยีสต์และแป้งมันสำปะหลัง สีธรรมชาติจากคาราเมลและบีทรูท แต่งกลิ่นธรรมชาติเพียง 0.5% จุดเด่นคือไม่ได้มีแค่แพลนต์เบสด์ในรูปแบบเนื้อบด แต่มาพร้อมเบอร์เกอร์เนื้อสุดฉ่ำที่หอมกลิ่นเครื่องเทศจากโรสแมรี่ ไทม์ กระเทียม หัวหอม ยังไม่พอ! อีกเมนูเด่นคือคัตสึเนื้อจากพืชที่หน้าตาดีเอามากๆ และทำง่ายแค่นำไปทอดเพียง 7 นาทีก็สุกพร้อมกิน

วัตถุดิบ ถั่วเหลือง ข้าว น้ำมันรำข้าว
เหมาะสำหรับ ผัด ทอด ย่าง นึ่ง ไม่แนะนำให้ต้ม

ข้อมูลโภชนาการ Let's Plant Meat เนื้อบดจากพืช (ต่อครึ่งถุง 75 g)

· พลังงาน 100 Kcal

· โปรตีน 11 g

· ไขมัน 2 g

· ไฟเบอร์ 4 g

· คอเลสเตอรอล 0 mg

ปรุงเนื้อจากพืชยังไง ให้อร่อยเหมือนเนื้อแท้

1.เก็บในช่องแช่แข็ง ในอุณหภูมิ -18 องศาเซลเชียล

นำมาละลายเมื่อต้องการใช้ หากใช้ไม่หมดให้เก็บขึ้นช่องแช่แข็งตามเดิม แนะนำให้ใช้หมดภายในสองวันหลังเปิดซอง

2.นวดผสมปั้นเป็นก้อนได้อย่างเนื้อสัตว์ โดยสามารถปรุงรสเพิ่มได้ตามใจชอบในขั้นตอนนี้

3.ใส่ลงไปในหม้อต้มเป็นอย่างสุดท้าย รอจนสีเริ่มจางลงแปลว่าพร้อมทาน ไม่แนะนำให้ต้มทิ้งไว้นาน

4.ผัดโดยใช้ความร้อนปานกลาง จนเริ่มกลายเป็นสีน้ำตาลแปลว่าพร้อมทาน ไม่ควรขยี้มากไประหว่างผัด